เรือนจำกลางคลองเปรม มีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นลักษณะรูปทรงอาคารภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมคล้ายพระราชวังแวร์ซาย ของประเทศฝรั่งเศส ส่วนลักษณะรูปทรงภายในเป็นสถาปัตยกรรมคุกโรมัน ประเทศกรีซโดยมีอาคารเรือนนอนรูปตัว T ๖ แดนหันท้าย T มารวมกัน เป็นลักษณะวงกลม ซึ่งมีอาคารที่ทำการส่วนควบคุมผู้ต้องขังเป็นอาคารศูนย์กลา งแล้วมีป้ายชื่อเรือนจำที่โดดเด่นมีลักษณะใหญ่ ประชาชนที่ผ่านมอมองเห็นได้ชัดเจนในระยะไกล รวมทั้งยังมีศาลเจ้าพ่อเจตคุปต์ที่มีความภูมิฐานศักดิ์สิทธิ์และสง่างามเป็นที่เคารพสักการะของหมู่ข้าราชการราชทัณฑ์



ประวัติความเป็นมาของเรือนจำกลางคลองเปรม
ในปี พ.ศ. 2478 กรมราชทัณฑ์ มีแนวคิดที่จะสร้างคุกแห่งใหม่ขึ้น ที่ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร โดยเห็นว่า เรือนจำกองลหุโทษ ที่ตั้งอยู่ถนนมหาชัย ตำบลสำราญราษฎร์ อำเภอพระนคร จังหวัดพระนคร อยู่กลางพระนคร และมีสภาพเก่าทรุดโทรม
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2468 กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ในท้องที่ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร ซึ่งมีเนื้อที่จำนวน 782 ไร่ 2 งาน 10 ตารางวา ประกอบด้วยพื้นที่โฉนด 52 ฉบับ ตามประกาศพระราชกริสดีกา กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร พุทธสักราช 2486 ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันมหิดล ซึ่งตราไว้ ณ วันที่ 14 กันยายน พุทธสักราช 2486 อ้างอิงตามหนังสือประวัติการราชทัณฑ์ 200 ปี หน้า 403 – 404
ปี พ.ศ. 2487 พลตำรวจตรีขุนศรีศรากร (ชะลอ ศรีศรากร) อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ก่อสร้างเรือนจำขึ้นที่นั่นเรียกว่า “เรือนจำชั่วคราวตำบลลาดยาว” ตามคำสั่งของกระทรวงมหาดไทยที่ 233 / 2487 ลงวันที่ 13 เมษายน 2487 ด้วยความเห็นชอบของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น

ปี พ.ศ. 2496 กรมราชทัณฑ์ ได้รับงบประมาณให้ดำเนินการก่อสร้างเรือนจำกลางประจำเขตคลองเปรมแห่งใหม่ ณ ท้องที่ ตำบลลาดยาว อำเภอบางเขน จังหวัดพระนคร ในพื้นที่ 435 ไร่ 6 งาน 86 ตารางวา โดยเป็นพื้นที่ภายนอก 252 ไร่ 3 งาน 84 ตารางวา และพื้นที่ภายใน 183 ไร่ 3 งาน 2 ตารางวา จึงให้ดำเนินการไปก่อสร้างอาคารและเรือนนอนในพื้นที่จำนวน 2 หลังหลังที่ 1 เป็นที่ควบคุมของผู้ต้องขัง ด้านการฝึกวิชาชีพ เรียกว่า”สถานที่ฝึกอบรมวิชาชีพลาดยาว” ใช้คุมขังนักโทษที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 10 ปี ซึ่งปัจจุบันที่ตั้งคือ ทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนหลังที่ 2 ใช้คุมขังบุคคลที่มีนิสัยและความประพฤติเป็นอันธพาล (รู้จักกันทั่วไปว่า”คุกอันธพาล”) ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร (เดิมเป็นที่ตั้งของทัณฑสถานวัยหนุ่มบางเขน)
สภาพพื้นที่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ลุ่ม ลักษณะเป็นเกาะ มีน้ำจากคลองเปรมประชากร
และน้ำคลองบางเขนล้อมรอบ จึงคล้ายๆกับเกาะคีมอยย์ของไต้หวัน อันส่งผลทำให้คนราชทัณฑ์และประชาชนทั่วไป เรียกขานติดปากว่า เรือนจำบนเกาะคีมอยย์ เพื่อที่จะได้จดจดำง่าย ในการมาเยี่ยมผู้ต้องขังที่คุมขังในพื้นที่ดังกล่าว
ปี พ.ศ. ๒๔๙๘ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๔๙๘ พล.ต.อ. เผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ขอให้สำนักงประมาณช่วยจัดสรรงบประมาณ จำนวน ๒๘,๙๗๓,๖๐๐บาท (ยี่สิบแปดล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นสามพันหกร้อยบาทถ้วน) ให้กับกรมราชทัณฑ์ เพื่อดำเนินการสร้างเรือนนอนและอาคารคุมขังเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่เพิ่มเติมขึ้นอีก ให้สามารถจะขังผู้ต้องขังรวม๔,๐๐๐ คน (ตามเอกสารที่สำคัญในการก้าวหน้าแห่งระบบราชทัณฑ์ปัจจุบัน ฉบับที่ ๑ ลงวันที่ ๑๘มกราคม ๒๕๘๙๘ ] หลังจากนั้นได้มีการปรับปรุงถมพื้นที่ดังที่ดังกล่าวเพื่อความพร้อมในการก่อสร้างอาคารเรือนนอน

ปี พศ ๒๕๐๑ ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารเรือนนอนเป็นรูปตัว T แดน ๑ และ แดน ๖
ปี พ.ศ.๒๕๐๓ ตามคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๗๔/๒๕๐๓ ได้ดำเนิน
การก่อสร้างอาคารเรือนนอนเป็นรูปตัว T แดน ๑ และแดน ๖ แล้วเสร็จ จึงให้ใช้
เพื่อคุมขังผู้ต้องขังคดีทั่วๆไป และอาคารเรือนนอนแดน ๖ ใช้เพื่อคุมขังบุคคลที่มีนิสัยความเป็นอันธพาล ซึ่งย้ายมาจากคุกอันธพาลเดิม ส่วนพื้นที่คุกอันธพาลเดิม ได้ใช้เป็นที่ควบคุมผู้ต้องขังวัยหนุ่มทดแทน
ปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้ก่อสร้างเรือนนอนแดน ๒ และ แดน ๕ ซึ่งแต่ละแดน มีห้องขังซอย
แดนละ ๒๑๘ ห้อง เพื่อแยกการคุมขังบุคคลที่มีนิสัยและความประพฤติเป็นอันธพาลที่มีปัญหาตั้งกลุ่มทะเลาะเบาะแว้งกัน
ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ ได้ก่อสร้างเรือนนอนแดน ๓ และแดน ๔ เพื่อใช้คุมขังผู้ต้องขัง
ฝึกวิชาชีพเฟอร์นิเจอร์ ช่างหวาย ช่างไม้ไผ่ และช่างไม้
ปี พ.ศ. ๒๕๑๓ การก่อสร้างได้แล้วเสร็จ และทยอยย้ายผู้ต้องขังจากเรือนจำกลางคลองเปรม ถนนมหาไชย ไปยังสถานที่เรือนจำชั่วคราวลาดยาว
ปี พ.ศ.๒๕๑๕ ได้มีคำสั่งที่ ๔๕๓/๒๕๑๕ วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๑๕ กระทรวงมหาดไทยได้เปลี่ยนชื่อเรือนจำชั่วคราวลาดยาวเป็น “เรือนจำกลางคลองเปรม” อยู่เลขที่ ๓๓/๒ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้มีประกาศกระทรวงยุติธรรม ปรับเปลี่ยนการ ใช้ประโยชน์พื้นที่เรือนจำกลางคลองเปรมใหม่ ให้มีความเหมาะสมและเกิดประสิทธิภาพต่อภารกิจของของเรือนจำ ปัจจุบัน คงเหลือพื้นที่ภายใน ๑๒๑ ไร่ ๑ งาน ๙๒.๒๖ ตารางวา (ตามประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่องกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๖๖)
